และต้องออกจากการแข่งขันไป
ตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution)สิ้นสุดลงในกลางศตวรรษที่ 19 ธุรกิจแทบทั้งโลก
มีการผลิตแบบอุตสาหกรรม Mass เป็นการผลิตที่เน้นปริมาณเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการที่โลกมีการขยายตัวของจำนวนประชากรอย่างรวดเร็ว
เกือบ 200 ปี ที่ผ่านมา มีการพัฒนาเทคโนโลยี และมูลค่าเพิ่ม (Value added) ให้กับสินค้า (Goods) ตลอดเวลา และระบบทุนนิยมเองก็เกื้อให้มีการเกิดใหม่ของธุรกิจตลอดเวลา
ดังนั้นจึงมีการแข่งขันในสมรภูมิ คือ ตลาด อย่างดุเดือด ชนิดที่เรียกว่า "ถ้าอ่อน ก็แพ้ไป"
และการดำเนินการจะเป็นแบบองค์กรเดี่ยว คือ ผลิตเองขายเอง Business to Customers หันหน้าชนกันจะๆกับคู่แข่งขัน ซึ่งการแข่งขันแบบนี้ทำให้บาดเจ็บ ล้มตายทั้งคู่
เพราะต้องแบกรับความเสี่ยงไว้เองทั้งหมดตั้งแต่ ต้นน้ำถึงปลายน้ำ คือ
คัดสรรวัตถุดิบ (Material)
ผลิต (Production)
ขนส่ง (Logistics&Distribution)
จัดจำหน่าย (Retail)
แต่กลับมีข้อมูล (Information) และเงินทุน (Capital) จำกัด
การแข่งขันในตลาดทุกวันนี้ไม่ใช่การแข่งขันระหว่าง ธุรกิจอีกต่อไป แต่จะเป็นการแข่งขันระหว่าง Supply chain กับ Supply chain คือ ใครมี Business Partner หรือNetwork ที่แข่งแกร่งกว่าก็ Win ไป
สรุป Supply Chain คือ สายทางการผลิตและเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าและบริการ เริ่มตั้งแต่ต้นน้ำ(จัดหาวัตถุดิบ) ไปจนถึงปลายน้ำ(มือผู้บริโภค) End User
Cr. เชฟหมูตุ๋น